Multimodality: การสื่อสารยุคใหม่ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ

ทุกวันนี้ เราทุกคนล้วนใช้โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เมื่อเราจะโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียใดก็ตาม เราไม่ได้สื่อสารผ่านข้อความเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาศัยภาพถ่าย สี เสียง ดนตรี หรือแม้แต่ท่าทาง ในวิดีโอร่วมด้วย สื่อเหล่านี้คือการสื่อสารที่ใช้ “หลายโหมด” ร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกรวมกันว่า “มัลติโมดาลิตี้” (Multimodality)

ความหลากหลายของสื่อเหล่านี้อาจเป็นเรื่องธรรมดาที่เราคุ้นชิน จนเราอาจมองข้ามความสำคัญของ การใช้หลายโหมดในการสื่อสาร แต่รู้หรือไม่ว่า การเข้าใจแนวคิด Multimodality ไม่เพียงช่วยให้เราสื่อสาร ในชีวิตประจำวันได้อย่างลึกซึ้งขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับครูผู้สอนภาษาอังกฤษ เพราะสามารถทำให้การเรียนการสอนมีความหมาย สนุก และสอดคล้องกับการสื่อสารในโลกยุคใหม่มากขึ้น

Multimodality คืออะไร?

Multimodality คือแนวคิดที่มองว่าการสื่อสารและการสร้างความหมายไม่ได้เกิดจาก “ภาษา” เพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการใช้โหมด (mode) ต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น คำพูด สีหน้า ท่าทาง ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เสียง การจัดวาง เป็นต้น โหมดเหล่านี้ล้วนทำงานร่วมกันในการสื่อสารความหมายในชีวิตจริง การสื่อสารจึงเป็นการผสมผสานของโหมดหลายแบบที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน นักวิชาการด้านภาษาศาสตร์สังคม เช่น Gunther Kress และ Carey Jewitt จึงได้นำเสนอแนวคิด Multimodality ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดสำหรับวิเคราะห์การสื่อสาร โดยเน้นความเข้าใจในบทบาทของโหมดต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบเหล่านี้ (Jewitt, 2009; Kress, 2009)

Professor Gunther Kress (ที่มา: link)

Professor Carey Jewitt (ที่มา: link)

แม้ฟังดูเป็นทฤษฎีที่ซับซ้อน แต่หากลองนึกถึงกิจกรรมง่าย ๆ เช่น การนำเสนองานหน้าชั้นเรียน ก็จะเห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่แค่ “สิ่งที่พูด” เท่านั้นที่มีความหมาย แต่ยังรวมถึง:

  • สื่อประกอบ เช่น สไลด์หรือวิดีโอ
  • น้ำเสียง การเน้นคำ
  • สีหน้า ท่าทาง

หากครูตระหนักถึงศักยภาพขององค์ประกอบเหล่านี้และออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมการใช้โหมดที่หลากหลาย ก็จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะทางภาษาไปพร้อมกับทักษะการสื่อสารเชิงสังคมและวัฒนธรรมด้วย

ทำไมครูสอนภาษาอังกฤษควรเข้าใจและใช้ Multimodality

แม้ว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะเน้นทักษะทางภาษาเป็นหลัก แต่ในความเป็นจริง “ภาษา” ไม่สามารถแยกขาดจาก “อวัจนภาษา” (non-verbal communication) ได้ แนวคิด Multimodality จึงตอบสนองความต้องการของผู้เรียนยุคดิจิทัลได้อย่างแท้จริงและมีประโยชน์หลายข้อ เช่น

  • เพิ่มความสนใจและแรงจูงใจผ่านสื่อที่หลากหลาย
  • ช่วยให้เข้าใจเนื้อหาง่ายขึ้น ด้วยภาพ เสียง และบริบท
  • ผู้เรียนสื่อสารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านโหมดต่างๆ
  • เตรียมความพร้อมสำหรับการสื่อสารในโลกจริงนอกห้องเรียน
  • พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ เพื่อเข้าใจความหมายแฝงในสื่อ

ตัวอย่างการนำ Multimodality ไปใช้ในห้องเรียน

การเข้าใจ Multimodality ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพาเทคโนโลยีเท่านั้น แต่คือการเข้าใจว่าความหมาย ถูกสร้างผ่านหลายช่องทางในเวลาเดียวกัน ครูสามารถประยุกต์แนวคิดนี้ในห้องเรียนได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเลือกสื่อไปจนถึงการออกแบบกิจกรรม ตัวอย่างเช่น:

  • ใช้วิดีโอ เพลง การ์ตูน หรืออินโฟกราฟิกเป็นสื่อประกอบการสอน เพื่อช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจคำศัพท์ สำนวนหรือบริบทการสื่อสาร
  • ให้ผู้เรียนสังเกตและวิเคราะห์สื่อมัลติมีเดีย ว่าสื่อเหล่านั้นใช้โหมดต่าง ๆ สื่อสารความหมายอย่างไร พร้อมเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ เสียง หรือการจัดวางองค์ประกอบ
  • มอบหมายงานที่ส่งเสริมทักษะการเขียนแบบมัลติโมดัล (Multimodal writing) เช่น การทำโปสเตอร์แนะนำตนเอง การอัดวิดีโอเล่าเรื่องสั้น การสร้างมีม (meme) หรืออินโฟกราฟิก

สิ่งสำคัญคือ การให้คุณค่ากับ “ความหมาย” ที่ผู้เรียนสร้างขึ้น ไม่ใช่เพียงความถูกต้องทางไวยากรณ์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้เรียนได้สื่อสารอย่างมีความหมายผ่านหลายช่องทาง

การนำ Multimodality ไปใช้ในห้องเรียน (ที่มา: link)

การประเมินการเรียนรู้ในบริบทของ Multimodality

เมื่อกิจกรรมการเรียนรู้ใช้หลายโหมด การประเมินก็ต้องสอดคล้องกับธรรมชาติของ Multimodality ซึ่งหมายถึงการประเมินที่ไม่จำกัดเพียงความถูกต้องของไวยากรณ์ แต่ต้องเห็นคุณค่าของความหมายที่ผู้เรียนสร้าง

แนวทางการประเมินมี 3 รูปแบบ:

  • Assessment of Learning – ประเมินผลสัมฤทธิ์ เช่น พรีเซนต์วิดีโอ โปสเตอร์ โดยใช้เกณฑ์ ความชัดเจน ความหลากหลาย ความสอดคล้อง และการใช้ภาษา
  • Assessment for Learning – ประเมินเพื่อพัฒนา เช่น ให้ฟีดแบ็กระหว่างทำงาน การให้เพื่อนช่วยประเมิน (peer-assessment)
  • Assessment as Learning – ผู้เรียนประเมินตนเอง เช่น เขียน reflection หลังทำงาน ประเมินตามเกณฑ์ที่กำหนดร่วมกัน

การประเมินทั้งสามรูปแบบควรนำมาใช้ร่วมกัน เพื่อส่งเสริมทักษะภาษา ความคิดสร้างสรรค์ และความเข้าใจการสื่อสารแบบหลายมิติ

บทส่งท้าย

Multimodality ไม่ใช่แค่แนวคิดทางภาษาศาสตร์ แต่เป็นแนวทางการสื่อสารที่หลากหลายและมีความหมาย การออกแบบกิจกรรมและการประเมินที่ให้พื้นที่ผู้เรียนได้ใช้ภาษาร่วมกับโหมดอื่น ๆ อย่างสร้างสรรค์ จะช่วยให้ผู้เรียนเรียนรู้อย่างกระตืนรือล้น สามารถเชื่อมโยงกับโลกจริง และส่งเสริมพัฒนาการทั้งด้านภาษาและทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21

References

Jewitt, C. (2009). The Routledge handbook of multimodal analysis. Routledge.

Kress, G. (2009). Multimodality: A social semiotic approach to Contemporary communication. Routledge.

บทความโดย อาจารย์ ดร.สิชล คูวุฒยากร
อาจารย์ประจำสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์