A Story of Synonyms แค่ ‘เหมือน’ แต่ไม่ ‘เท่า’: เข้าใจคำพ้องความหมายในภาษาอังกฤษ

เราเคยสังเกตกันมั้ยว่าในภาษาไทยมีหลายคำที่ความหมายใกล้เคียงกัน เช่น กิน ทาน รับประทาน เสวย แดก ฉัน แน่นอนที่สุดคำกลุ่มนี้มีบริบทการใช้ที่แตกต่างกันออกไป เช่น ความแตกต่างในแง่ความเป็นทางการ ความสุภาพ คำราชาศัพท์ คำศัพท์ที่ใช้กับพระสงฆ์ ฯลฯ ในภาษาอังกฤษก็เช่นกัน เรามักพบว่ามีคำหลายๆคำที่พ้องความหมายกัน เช่น คำกริยา refuse reject deny decline ตลอดจนกริยาวลี turn down ซึ่งล้วนแล้วแต่มีความหมายว่า ‘ปฎิเสธ’ ความน่าสนใจอยู่ที่คำพ้องความหมาย หรือ synonym เหล่านี้อาจพอใช้แทนกันในบางบริบท เช่น เราสามารถพูดว่า They live in a big/large house ซึ่งในกรณีนี้ ทั้ง big และ large สามารถใช้แทนกันได้ แต่เราพูดว่า a large number of students ไม่ใช่ a big number of students และในทางกลับกันเรามักได้ยิน a big mistake แทนที่จะเป็น a large mistake

ในฐานะที่เราเป็นผู้ใช้ภาษาอังกฤษการจำแนกแยกแยะความแตกต่างการใช้คำพ้องความหมายเป็นสิ่งสำคัญ Jackson and Amvela (2022) ได้เสนอหลักเกณฑ์ที่น่าสนใจว่า synonyms มีความต่างกันในหลายๆ ประเด็น เช่น

a. ภาษาถิ่น (dialect) หรือภาษาอังกฤษที่ใช้ในคนละภูมิภาคหรือคนละประเทศ ตัวอย่างหนึ่งที่คลาสสิคคือการที่ชาวอังกฤษเรียกกีฬาฟุตบอลว่า football และชาวอเมริกันเรียกกีฬาชนิดนี้ว่า soccer

b. ความหมายแฝง (connotation) คำที่มีความหมายคล้ายกันอาจมีความหมายโดยนัยต่างกันได้ เช่น คำว่าผอมในภาษาอังกฤษมีหลายคำ slim คือผอมแบบสุขภาพดี slender คือผอมสวยหุ่นดี และ skinny คือผอมแห้งหนังติดกระดูก

c. ระดับความเป็นทางการ (degree of formality) คำพ้องความหมายแต่ละคำจะมีระดับความเป็นทางการที่ไม่เท่ากัน เช่น คำว่า inquire จะมีระดับความเป็นทางการสูงกว่า ask ในขณะที่คำว่า start มีความเป็นทางการน้อยกว่า commence

d. คำปรากฎร่วม (collocation) เป็นเกณฑ์สำคัญยิ่งที่ช่วยจำแนกความพ้องความหมายได้เป็นอย่างดี เช่นคำว่า broad และ wide สามารถใช้แทนกันได้ใน a broad/wide river แต่ เราจะนิยมพูดว่า a wide angle lens (เลนส์มุมกว้าง) ไม่ใช่ a broad angle lens และเรามักจะได้ยินคนพูดว่า a broad daylight robbery (ปล้นกลางวันแสกๆ) มากกว่าจะได้ยิน a wide daylight robbery

e. รูปแบบทางไวยากรณ์ (grammatical pattern) คำพ้องความหมายบางคำแม้จะมีความหมายคล้ายกันแต่มีรูปแบบการใช้ที่ต่างกัน เช่น คำว่า ask และ plead แม้จะมีความหมายหลักร่วมกันคือ ‘ขอร้อง’ แต่คำว่า ask จะใช้ในรูปแบบ She asked John to go. ในขณะที่ plead จะต้องใช้ร่วมกับบุพบท with ในรูปแบบ She pleaded with John to go. หากผู้เรียนภาษาอังกฤษไม่ตระหนักถึงความแตกต่างข้อนี้อาจอนุมานเอาเองว่าสามารถใช้โครงสร้าง She pleaded John to go. ได้ ซึ่งไม่ถูกหลักไวยากรณ์

นักศัพทวิทยา (lexicologist) ในยุคปัจจุบันสามารถจำแนกความแตกต่างระหว่างคำพ้องความหมายในภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นโดยอาศัยการศึกษาภาษาที่ปรากฏในคลังข้อมูลของเจ้าของภาษา (native speaker corpus) ยิ่งคลังใดมีข้อมูลมากผลการศึกษาก็ยิ่งน่าเชื่อถือ นักวิชาการหลายคนศึกษา synonym ผ่านข้อมูลภาษาจาก Corpus of Contemporary American English (COCA) ซึ่งมีข้อมูลจำนวนมหาศาล Phoocharoensil (2025) สังเกตข้อมูลใน COCA พบว่า poisonous และ venomous แม้จะนิยมใช้หมายถึงสัตว์มีพิษ เช่น poisonous/venomous snakes แต่ poisonous มักใช้ร่วมกับ chemical และ food ในขณะที่ไม่พบการใช้ venomous ในบริบทนี้ ในทางกลับกัน venomous สามารถปรากฎร่วมกับคำที่แสดงการกระทำ เช่น a venomous debate และ a venomous reply อย่างไรก็ดีเราจะไม่พบการใช้ poisonous ในลักษณะนี้ งานวิจัยอีกชิ้นที่น่าสนใจศึกษาคำพ้องความหมายใน COCA และพบว่า try ‘พยายาม’ มักปรากฏบ่อยในบริบทที่ไม่เป็นทางการ เช่นใน blog และ webpage ส่วนคำว่า attempt strive และ endeavor นิยมใช้ในบริบททางวิชาการและมีระดับความเป็นทางการสูงกว่า try (Laosrirattanachai & Laosrirattanachai, 2025) นอกจากนี้แล้วข้อมูลจาก COCA ยังบอกเราอีกด้วยว่า คำว่า cease ‘หยุด’ นิยมใช้ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับสงครามและความขัดแย้ง เช่น เราจะพบการใช้คำปรากฎร่วม cease firing, cease bombardment หรือ cease oppression อยู่บ่อยครั้ง ในขณะที่คำว่า halt มักใช้กับคำปรากฎร่วมที่แสดงการเคลื่อนไหว เช่น flow, rise, spread (Chaengchenkit, 2023)

ภาพที่ 1 ตัวอย่างของคำว่า ‘venomous’ จากคลังข้อมูลภาษาออนไลน์ COCA

ในฐานะครูผู้สอนภาษาอังกฤษเราควรสร้างตระหนักให้แก่ผู้เรียนว่า คำพ้องความหมายในภาษาอังกฤษแม้จะ ‘เหมือน’ กันในบางแง่มุมแต่ก็ไม่ ‘เท่า’ กันเสมอไปในแง่การใช้ กล่าวคือ synonym ในแต่ละกลุ่มแม้จะความหมายหลักร่วมกันแต่การใช้จะแตกต่างออกไปตามบริบท หลักเกณฑ์เบื้องต้นทั้ง 5 ประการที่สรุปให้ข้างต้นจึงมีประโยชน์ที่จะช่วยให้ผู้สอนสร้างบทเรียนและกิจกรรมต่างๆเพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถแยกแยะความแตกต่างของคำพ้องความหมายในภาษาอังกฤษ ขอแนะนำให้ผู้สอนลองสำรวจและเลือกใช้ข้อมูลจากภาษาจริง (authentic language) ในคลังข้อมูล โดยอาจใช้วิธีการเลือกข้อมูลที่เหมาะสมกับระดับของผู้เรียน ไม่ยากหรือไม่ง่ายเกินไป โดยผู้สอนคอยช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนฝึกสังเกตและศึกษาตัวอย่างประโยคที่เลือกสรรมา อาจใช้ชิ้นงานหรือกิจกรรมช่วยเสริมความรู้ความเข้าใจด้วยโดยมีครูเป็นผู้สนับสนุนการเรียนรู้และช่วยแนะนำก็จะทำให้ชั้นเรียนช่วยสร้างความรู้และสนุกสนานในเวลาเดียวกัน (Nation, 2022)

References:

Chaengchenkit, R. (2023). A corpus-based study of the synonyms cease, halt, and stop. LEARN Journal: Language Education and Acquisition Research Network, 16(1), 473-494.

Jackson, H., & Amvela, E. (2022). Words, meaning, and vocabulary: An introduction to modern English lexicology. Bloomsbury Academic.

Laosrirattanachai, P., & Laosrirattanachai, P. (2025). Unveiling the distinction of near synonymy: A corpus-based analysis on attempt, endeavor, strive, and try. PASAA, 70, 132–163.

Nation, I. S. P. (2022). Learning vocabulary in another language (3rd ed.). Cambridge University Press.

Phoocharoensil, S. (2025). Exploring collocational patterns and genres: An analysis of the use of poisonous and venomous in American English. World Journal of English Language, 15(2), 202-212.

บทความโดย รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภกรณ์ ภู่เจริญศิลป์
ผู้อำนวยการสถาบันภาษาและบรรณาธิการ LEARN Journal ในฐาน Scopus (Q1)